ผลกระทบจากการใช้โทรศัพท์มือถือ

การแผ่รังสีของตัวโทรศัพท์และรังสีที่ได้รับจากการใช้โทรศัพท์มือถือ คือ รังสีไมโครเวฟ หากได้รับปริมาณรังสีมากๆ จากการคุยโทรศัพท์เคลื่อนที่นานๆ ทำให้มีผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น มีอาการปวดหูปวดศีรษะ ตาพร่ามัวมึนงง ขาดสมาธิ และเกิดความเครียดนอนไม่หลับ อาจทำให้เกิดโรคความจำเสื่อม ผิวหนังเหี่ยวย่น นอกจากนี้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทำให้เกิดการรั่วของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง ซึ่งจะสะสมในระบบหมุนเวียนโลหิต ส่งผลให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง เยื่อหุ้มสมองเสื่อม และเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ เสี่ยงกับการเป็นมะเร็งสมอง สำหรับในผู้ชายไม่ควรพกมือถือที่เอว เสี่ยงรับผลกระทบต่อไขกระดูก และอัณฑะ

• ขณะที่มีสายเรียกเข้า ควรกดรับสายให้ห่างจากตัวแล้วเว้นระยะก่อนนำโทรศัพท์มาแนบหู

เพราะขณะที่มีสายเรียกเข้าจะมีคลื่นแม่เหล็กจากโทรศัพท์ ซึ่งเป็นพลังแรงมากที่สุด

• อย่าติดหรือแขวนโทรศัพท์ติดตัวไว้ตลอดเวลา เพราะคลื่นรังสีจะแผ่มาถูกอวัยวะที่สำคัญ

โดยเฉพาะกระดูกซึ่งมีไขกระดูกที่ทำหน้าที่สร้างเม็ดเลือดต่างๆ เช่น กระดูกเชิงกราน และกระดูกที่หน้าอก อาจทำให้มีผลกระทบต่อการสร้างเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาวได้

• หลีกเลี่ยงการใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 10 ขวบ เพราะคลื่นแม่เล็กไฟฟ้าจะผ่านกะโหลกศีรษะ

ของเด็กเข้าสู่เยื่อสมองได้ลึกกว่าของผู้ใหญ่

แบตเตอรี่หรือไส้แบตเตอรี่ที่เสื่อมคุณภาพแล้ว จัดเป็นขยะอันตรายที่ก่อให้เกิดโทษกับสุขภาพของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดในโลกและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากขั้วลบของถ่านชนิดนี้เป็น "แคดเมียม ไฮดรอกไซด์" เมื่อบรรจุไฟแล้วจะกลายสภาพเป็นแคดเมียม" ซึ่งมีทั้ง สารตะกั่ว ลิเธียม ทองแดง นิเกิล ซึ่งมีผลกระทบต่อระบบส่วนกลาง ทำให้ระบบหายใจผิดปกติ ไตอักเสบ ไตวาย เกิดอาการหอบหืด หลอดลมอักเสบ ข้อเสื่อม ถุงลมโป่งพอง และทำให้เกิดมะเร็งในอวัยวะได้หลายชนิด เพราะฉะนั้นเมื่อแบตเตอรี่เสื่อมคุณภาพแล้วไม่ควรเก็บไว้ควรนำไปทิ้ง หรือถ้าจะทำลายก็โดยวิธีการฝั่งดิน

Write a Comment