รอบรู้เรื่อง Smartphone ก่อนซื้อ เลือกซื้ออย่างไร? ให้คุ้มค่าสมราคา
เทคโนโลยีใหม่ๆ กำเนิดขึ้นมากมาย ถ้าเราเองไม่ได้ติดตามข่าวสารเหล่านี้ก็ตามกันไม่ทันเลยล่ะครับ ซึ่งสิ่งใหม่ๆนั้นได้แทรกเข้ามาในการใช้ชีวิตประจำวัน จนกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ไปแล้ว นั่นก็คือ โทรศัพท์มือถือ ที่ตอนนี้ใครๆก็เรียกว่า Smartphone เพราะไม่ว่าคุณจะไปไหนถ้าขาดเจ้าสิ่งนี้ไปก็คงจะหงุดหงิดใจไม่น้อยใช่ไหมล่ะครับ ไม่ว่าจะเล่นโซเชี่ยล ถ่ายรูป อัพเดทข่าวสารต่างๆ ถ้าหากวันนี้ใครที่คิดจะซื้อ Smartphone เครื่องใหม่สักเครื่องนึง ต้องดู ต้องเช็ค ตามเสปคกันให้ทันด้วย ซึ่งพวกเราได้รวบรวมเทคการเลือกซื้อเอาไว้ให้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเช็คเสปคเครื่อง ระบบสัญญาณต่างๆ จะซื้อมือถือใหม่ทั้งที ต้องเลือกให้คุ้มค่าสมราคากันหน่อย ซึ่งการเลือกซื้อมือถือนั้นต้องดูที่อะไรบ้าง? ไปดูกันเลยครับ
ก่อนอื่นต้องมาทำความรู้จักกับระบบของมือถือกันก่อนครับ ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 ระบบ นั่นก็คือ
• ระบบ ปฏิบัติการ Android สำหรับระบบนี้ ก็มีหลากหลายแบรนด์ ที่เป็นระบบนี้ อาทิเช่น Samsung , Oppo, Vivo, HUAWEI, โดยเป็นระบบปฏิบัติการจาก Google ที่เป็น Open source ที่นักพัฒนาสามารถพัฒนาต่อได้ ซึ่งจะต้องใช้บัญชี Gmail ในการใช้โหลดแอพพลิเคชั่นต่างๆจาก Play Store ได้นั่นเอง ซึ่งในนี้จะมีแอพพลิเคชั่น ที่ให้บริการมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสื่อ Social Media, Game ที่จะมีนักพัฒนาสร้างลูกเล่นใหม่ๆเพิ่มขึ้นทุกๆวันเลยล่ะครับ
• ระบบ ปฏิบัติการ iOS ระบบนี้เป็นระบบปิดของค่าย Apple ครับ ซึ่งจะเป็นของตระกูล iPhone โดยเฉพาะ ซึ่งมีข้อแตกต่างอยู่ที่ ต้องสมัคร Apple ID เพื่อเข้าใช้บริการ หรือ ซื้อแอพพลิเคชั่นต่างๆ เท่านั้น ข้อที่เหมือนกันสำหรับระบบนี้ก็คือ สามารถโหลด Social Media แต่สำหรับ Game นั้น อาจจะมีแตกต่างกันตามที่ผู้พัฒนารองรับ
ถ้าหากคุณเป็นหนึ่งคนที่เพิ่มจะเริ่มใช้สมาร์ทโฟน ขอแนะนำเลยครับว่าให้ใช้มือถือที่รองรับ 4G เอาไว้เลย เพราะจะซื้อทั้งทีก็ ต้องอัพเดทคลื่นให้ตรงกับปัจจุบันหน่อย จะคุ้มกว่ามาก เพราะถ้าเราไปในพื้นที่บริการ 4G แต่มือถือไม่รองรับ เราก็จะ ไม่สามารถใช้บริการได้ ซึ่งมีวิธีตรวจสอบกันง่ายๆครับ ให้ดูข้างกล่องตอนซื้อ หรือ คุณสมบัติครับ ว่ารองรับ 4G LTE Band ไหน โดยในประเทศไทยนั้นมี 3 คลื่น นั่นก็คือ
• LTE Band 1 คือ คลื่น 2100 MHz โดยมี TRUEMOVE H กับ Dtac ที่มีให้บริการแล้ว
สำหรับข้อดีของระบบ สัญญาณ 4G นั่นก็คือ สามารถรับส่งสัญญาณได้เร็วขึ้น แรงขึ้น คมชัดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการโทร หรือ ใช้อินเทอร์เน็ต นั่นเองครับ
ROM(Read-Only Memory) เป็นหน่วยความจำถาวรของโทรศัพท์ที่ให้มาบนเครื่อง โดยปัจจุบันนี้มีให้เลือกตั้งแต่ 8GB,16GB,32GB,64GB,128GB ซึ่งจะใช้เก็บข้อมูลทั้งตัวระบบปฎิบัติการ แอพพลิเคชั่นต่างๆ เพลง เอกสาร รูปภาพ วีดีโอ อีกทั้งไฟล์อื่นๆ ถ้าหากว่า ROM ยิ่งเยอะ จะสามารถลงแอพพลิเคชั่น หรือ เก็บไฟล์ต่างๆได้มากนั่นเอง ดังนั้น ถ้าเน้นการทำงานหรือเก็บข้อมูลเยอะ แนะนำให้หามือถือมี ROM เริ่มต้นที่ 32GB ครับ
RAM (Random Access Memory) เป็นหน่วยความจำชั่วคราวของโทรศัพท์ เป็นเหมือนตัวรับ หรือ ส่ง ข้อมูล พร้อมทั้งเป็นที่พักข้อมูลระหว่างการใช้งาน ถ้าหากว่ามี RAM เยอะก็จะใช้งานมือถือได้รวดเร็วขึ้น ถ้ามี RAM น้อยเครื่องก็จะทำงานช้าลง ซึ่งแรมนั้นยังทำงานร่วมกันกับ CPU อีกด้วยครับ ซึ่งยกตัวอย่างง่ายๆดังนี้
หนึ่งในฟังก์ชั่นนี้ ก็มีประโยชน์มากๆสำหรับคนทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นวัยทำงาน ใช้ถ่ายรูปงาน รายงานผลต่างๆ หรือ จะเป็นวัยเรียน ที่ใช้สำหรับการเรียนรู้มากมาย รวมทั้งอาจจะเป็นการถ่ายรูปเก็บภาพความทรงจำของกิจกรรมต่างๆ หรือ จะ Selfie สร้างโปรไฟล์สวยๆให้ตัวเองก็ยังได้ โดยปัจจุบันนี้การเลือกกล้องใช้งานขั้นพื้นฐานที่อยู่กับมือถือแล้ว ก็ต้องเลือกกล้องหน้าที่มีความละเอียด 5 ล้าน Pixel ส่วนกล้องหลังก็ต้อง 8 ล้าน Pixel ที่ให้ความคมชัดที่ดี พร้อมทั้งยังมีระบบต่างๆเข้ามาเป็นตัวช่วยในการถ่ายรูปให้สวยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ระบบกันภาพสั่นไหว OIS ซึ่งเจ้านี่จะทำหน้าที่ถ้ามือถือเกิดสั่นไหวไปในทิศทางใด ตัวกันสั่นก็จะล็อคเลนส์กล้องไว้ ณ ที่จุดโฟกัสภาพ ซึ่งจะขยับภาพในทิศที่สวนทางกัน ทำให้ภาพนั้นออกมาได้พอดี เพราะเป็นตัวช่วยให้ภาพนั้นดูสมดุลเวลาถ่ายนั่นเอง สำหรับการถ่ายวีดีโอต่างๆนั้น Smartphone รุ่นใหม่ๆก็รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ 4k แล้ว แต่ความละเอียดขนาดนี้ ต้องใช้พื้นที่ในการจัดเก็บมากด้วยเช่นกัน
Smartphone นั้นมีความแตกต่างจากโทรศัพท์มือถือรุ่นก่อนๆอย่างแน่นอน ที่ไม่เพียงแค่ เอาไว้โทรเข้า โทรออก หรือ ฟังเพลง โดยความอึดของแบตเตอรี่สำหรับ Smartphone นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเราเองนั้นใช้งานหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Social media , Game , ดูละคร ดูซีรี่ โดยใช้งานทั้งวัน ดังนั้นแล้วควรเลือกซื้อ Smartphone ที่มีความจุแบตเตอรี่ 3,000 mAh ขึ้นไปได้แล้ว ส่วนตอนนี้ก็มีความจุที่เพิ่มมากขึ้นไปสำหรับรุ่นใหม่ๆ อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี Fast Charging ที่มาช่วยให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วขึ้น เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากขึ้นด้วยครับ
เรื่องสำคัญที่ต้องหยิบยกขึ้นมาพูดนี่ก็คือ ดีไซน์ของ Smartphone ซึ่งแต่ละค่ายนั้นออกแบบมาไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นตัววัสดุเครื่อง ขนาดหน้าจอ สีเครื่อง ตรงนี้ขออธิบายข้อดี ข้อเสียในแต่ละเรื่องเลยแล้วกันครับ
• ขนาดหน้าจอ ถ้าหากจะพูดถึงขนาดของหน้าจอแล้ว มือถือรุ่นใหม่ๆใน 2-3 ปีหลังนี้มีหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น กว้างขึ้น ตอบโจทย์ลูกค้าที่ชอบรับชมภาพยนตร์ ละคร รวมถึง สามารถเล่นเกม ได้จุใจมากขึ้น โดยส่วนใหญ่แล้วพบขนาดของจอใหญ่ถึง 5.5 นิ้วเลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องใช้ทำงานหนักๆ จะได้มองเห็น หรือ ทำงานง่ายขึ้น แต่การพกพาใส่กระเป๋ากางเกงก็อาจจะดูคับไปสักหน่อย อีกอย่างคือเสี่ยงจอแตกง่ายด้วย ถ้าต้องการพกพาสะดวก จอสัก 3-4 นิ้วก็กำลังพอดีครับ แต่ถ้าคุณชอบจอใหญ่ๆก็ห้ามกันไม่ได้
• วัสดุตัวเครื่อง , สีเครื่อง สำหรับวัสดุตัวเครื่องนั้น แบบอลูมิเนียมจะได้รับความนิยมมากที่สุดเลย เพราะจะแสดงถึงความหรูหรา สวยงาม โดดเด่น แต่รองลงมาก็จะเป็นวัสดุพลาสติกที่อาจจะไม่ค่อยได้รับความนิยมนัก ส่วนสีนั้นก็แล้วแต่ผู้ซื้อจะชอบเลยครับ เพราะส่วนใหญ่อาจจะถูกบดบังด้วยเคสมือถือที่ป้องกันรอยอยู่ดี
ส่วนใหญ่แล้ว Smartphone ก็จะไม่ค่อยมีปุ่มกดที่มากนัก มีปุ่ม HOME ที่กดกลับมาหน้าหลัก,ปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง,ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง เท่านั้น
จะเห็นได้ว่าปัจจุบันนี้ Smartphone นั้น มีหลากหลายค่ายได้เปิดตัวแข่งขันกันมากมาย ซึ่งมีจุดเด่นหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น Camera Phone ที่มีจุดเด่นเรื่องกล้องถ่ายรูป หรือ การถ่ายภาพ Gaming Phone ที่มีจุดเด่นเรื่องความไหลลื่นในการเล่นเกม เพื่อตอบโจทย์คอเกมทั้งหลาย อีกทั้งช่องทางในการซื้อมือถือนั้นไม่ยากอีกต่อไป มีหลากหลายช่องทางสำหรับคนงบน้อย ไม่ว่าจะเป็น ซื้อมือถือพร้อมโปรโมชั่นรายเดือนกับเครือข่ายมือถือ หรือจะเป็นผ่อน 0% กับ บัตรเครดิต ที่ร่วมรายการ อีกทั้งยังมีร้านค้ามือถือชั้นนำจัดโปรโมชั่นลดราคาทุกๆเทศกาล เรียกได้ว่าสมัยนี้มือถือนั้น หาซื้อได้ไม่แพงอีกต่อไป แล้วเพื่อนๆล่ะ? เล็ง Smartphone จากแบรนด์ไหนกันอยู่ ยังไงก็ลองเปรียบเทียบสเปค รวมถึงราคาจากค่ายอื่นๆดูกันก่อน “จะซื้อทั้งที ต้องคุ้มทั้งคุณภาพและราคาด้วย”
Write a Comment