พฤติกรรมการใช้งานมือถือที่ทำร้ายตัวเองโดยไม่รู้ตัว
ทุกวันนี้ สมาร์ทโฟนกลายหนึ่งในอวัยวะของทุกคนไปแล้ว ชนิดที่ว่าลืมกระเป๋าตังค์ยังไม่เจ็บใจเท่าลืมสมาร์ทโฟนตัวโปรด ไม่ว่าจะตื่นนอน จะกินข้าว จะเดินทาง จะทำงาน หรือก่อนจะนอน เกือบทุกคนก็เคยใช้สมาร์ทโฟนพร้อมๆ กับกิจกรรมเหล่านี้ทั้งนั้น แต่หารู้ไม่ว่า บางพฤติกรรมนั้นส่งผลเสียต่อสุขภาพของตนเองโดยไม่รู้ตัว วันนี้ เราจะขอนำเสนอ พฤติกรรมการใช้งานมือถือที่ทำร้ายตัวเอง จะมีอะไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยครับ
หลายคนที่เล่นเฟสบุ้คแล้วติดใจ ชอบอ่านดราม่าต่อชนิดที่ไม่อยากให้ขาดตอน บางคนก็แชทจนติดลมยาวๆ 4-5 ชั่วโมงกว่าจะคุยจบ หลายคนเล่นมือถือจนลืมเวลาไปว่าเล่นมานานเท่าไรแล้ว พฤติกรรมแบบนี้ส่งผลเสียต่อสายตาโดยตรง เมื่อใช้มือถือสัก 15-20 นาทีก็ควรจะปลีกเวลามาพักสายตาบ้าง เพื่อไม่ให้กระบอกตาเมื่อยล้าจนเกินไปนั่นเอง
หากเราติดตามข่าวกันมาบ้างก็จะพบว่า มีผู้ใช้สมาร์ทโฟนถูกไฟดูดเสียชีวิตอยู่ทุกปี สาเหตุหลักก็เพราะใช้อุปกรณ์ชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐานนั่นเอง (หรือไม่ อุปกรณ์ชาร์จของแท้เสื่อมสภาพ แต่เปอร์เซ็นการเกิดน้อยมาก) นอกจากนี้ การเล่นไปชาร์จไปจะทำให้เครื่องร้อนขึ้น และส่งผลให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่สั้นลงนั่นเองครับ
หลายคนที่นอนไม่ค่อยหลับมักจะเล่นมือถือก่อนนอนสักนิดๆ หน่อยๆ คิดว่าเล่นไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็หลับเอง แต่พอเล่นไปเล่นมาถึงรู้ว่านี่มันตี 5 แล้ว! แทนที่จะได้หลับได้นอนกลับกลายเป็นว่าพักผ่อนไม่พอซะอย่างนั้น และไม่ใช่แค่นี้ การเล่นมือถือในที่มืดจะทำให้ตาพร่ามัว แสบตา นานวันเข้าก็จะทำให้สายตาสั้นลง (ใครที่ทำแบบนี้บ่อยๆ จะเข้าใจเป็นอย่างดี) อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ทำให้เราเสียเวลาพักผ่อนแบบเปล่าประโยชน์อีกด้วย
การใช้สมาร์ทโฟนในขณะขับรถ นอกจากจะอันตรายทั้งผู้ขับขี่และเพื่อนร่วมทางแล้ว ยังผิดกฎหมายจราจรทางบกอีกด้วย เพราะการขับขี่รถราแล้วโทรศัพท์ไปด้วยจะทำให้ผู้ขับขี่เสียสมาธิและตัดสินใจได้ช้าลง (ยิ่งถือมือถือขึ้นมาแชทยิ่งแล้วใหญ่ เพราะเห็นแต่หน้าจอไม่เห็นถนน) หากหลีกเลี่ยงการโทรไม่ได้ก็ขอแนะนำให้ใช้สมอลทอล์ค หรือไม่ก็เปิดลำโพงสนทนาแทนจะดีกว่า แต่วิธีที่ดีที่สุดและไม่เกิดอุบัติเหตุอย่างแน่นอน คือการจอดรถข้างทางแล้วโทรศัพท์นั่นเองครับ
เป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต สำหรับการใช้สมาร์ทโฟนในที่สาธารณะ เช่น ขณะข้ามถนน หรือขณะขึ้นลงรถ การทำแบบนี้จะทำให้เราไม่ทันระวังรถราที่แล่นเข้ามา หรือตกรถกระทันหันในขณะขึ้นลง (เพราะมัวแต่มองหน้าจอ) ยิ่งถ้าใส่หูฟังแล้วยิ่งอันตรายเข้าไปใหญ่ เพราะผู้ใช้จะไม่ได้ยินเสียงรอบข้างเลยแม้แต่นิดเดียว (ได้ยินแต่เสียงเพลง) เพราะฉะนั้น หยุดใช้สมาร์ทโฟนแค่แป๊บเดียวในขณะนั้น เพียงแค่นี้ก็ลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นบนท้องถนนได้แล้ว
สำหรับใครที่อยากติดตามบทความดี ๆ หรือข่าวสารใหม่ ๆ ก็สามารถกดไลค์เพจ หรือเข้ามาพูดคุยกันได้ที่ WhatPhone – Commu ได้เลยครับ
Write a Comment